สำหรับคนที่ชอบทานขนม หลายคนที่ทำขนมเอง พบว่าการทำขนมกินเองต้องลงทุนเยอะ ทั้งค่าอุปกรณ์ ค่าเตาอบ อีกทั้งต้องมีพื้นที่สำหรับเตรียมอุปกรณ์ทำขนมอีก แต่อุปสรรคพวกนี้จะเปลี่ยนไปเพียงแค่คุณมีไมโครเวฟ ก็สามารถรังสรรค์เมนูขนมแสนอร่อยได้จากบ้านคุณ โดยในวันนี้เรานำ 8 เมนูขนมจากไมโครเวฟได้ไม่ง้อเตาอบมาฝากกัน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.บราวนี่ไมโครเวฟ (หน้ากรอบ)

ส่วนผสม
- เนยเค็ม 60 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 45 กรัม
- ผงโกโก้ 15 กรัม
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ช็อคโกแลคชิพ 50 กรัม
วิธีทำ
- นำดาร์กช็อคโกแลต และเนย ใส่ไมโครเวฟ 30 วินาที จากนั้นนำมาคนให้เข้ากัน
- ร่อนแป้งและน้ำตาลทราย ไข่และเกลือ ผสมให้เข้ากัน โดยตีให้น้ำตาลละเอียดละเริ่มขึ้นฟู
- ใส่ช็อคโกแลตและเนยที่ละลายไว้มาผสมวัสดุเตรียมไว้ ค้นให้เข้ากัน โดยระวังอย่าให้แป้งเป็นเม็ด
- ใส่ช็อคโกแลตชิพลงไป
- เทสวนผสมทั้งหมดลงในภาชนะ โดยใช้กระดาษไขรอง
- นำเข้าไมโครเวฟ ตั้งเวลา 3 นาที (หรือจนขนมขึ้นฟู) อุณหภูมิที่ใช้คือ 150 cc ประมาณ 1,500 วัตต์
- เมื่อครบเวลา นำบราวนี่ออกจากไมโครเวฟ จากนั้นใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเพื่อตรวจสอบความสุก โดยให้สังเกตว่าไม่มีอะไรติดมาพร้อมกับไม้จิ้มฟันเป็นอันว่าใช้ได้
เคล็ดลับการทำบราวนี่ไมโครเวฟแบบหน้ากรอบ
การทำบราวนี่ให้หน้ากรอบหอมอร่อย เคล็ดลับอยู่ที่การตีไข่กับน้ำตาลให้นานที่สุด โดยการทำแบบนี้เป็นหลักการเดียวกับการเมอแรง ซึ่งเมอแรงจะเพิ่มความกรอบให้กับหน้าบราวนี่ เทคนิคที่ช่วยให้การตีไข่สำเร็จมีด้วยกันหลายวิธี เช่น แยกไข่ขาวตีกับน้ำตาลก่อน, ตีไข่ขาวกับน้ำตาลในอัตราส่วน 200 กรัม ใช้เวลา 3 นาที, ผสมเนยกับน้ำตาลก่อนค่อยนำไข่ลงมาตี เป็นต้น
2.ชีสพายบลูเบอรี่

ส่วนผสม
ในการทำชีสพายบลูเบอรี่สามารถแบ่งวัตถุผสมออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนฐานกับส่วนของเนื้อครีมชีส ซึ่งในแต่ละส่วนมีส่วนผสมดังนี้
ส่วนผสมฐาน
- แครกเกอร์บดละเอียด 150 กรัม
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เนยสด 100 กรัม
ส่วนผสมครีมชีส
- บลูเบอรี่ฟิลลิ่ง 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/3 ช้อนชา
- นม 4 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ 4 ฟอง
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำแครกเกอร์มาบดให้ละเอียด พร้อมกับละลายเนยสดลงไปผสมกับน้ำตาลและแครกเกอร์
- จากนั้นทำส่วนผสมที่ได้ใส่ภาชนะรองด้วยกระดาษไข โดยอัดแครกเกอร์กดให้แน่น จากนั้นเข้าไมโครเวฟด้วยความร้อน 800 วัตต์ 2 นาที จากนั้นนำมาพักไว้
- นำครีมชีสออกจากตู้เย็น พักไว้ 30 นาที เพื่อให้ครีมชีสนุ่ม จากนั้นจึงตีครีสชีส ผสมกับน้ำตาลโดยค่อยๆเติมน้ำตาลเรื่อยๆ จากนั้นจึงเติมเกลือ นม แล้วตีอีกครั้งจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
- เตรียมภาชนะแยกอีกหนึ่งใบ จากนั้นตอกไข่ใส่ชามอีกใบ ใส่มะนาว ตีให้เข้ากัน แล้วนำไปผสมกับส่วมผสมของครีมชีส คนผสมให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำภาชนะที่ผสมเสร็จเรียบร้อยเข้าไมโคเวฟ ด้วยความร้อน 800 วัตต์ 2 นาที จากนั้นนำมาคนให้เข้ากันจนเนื้อสัมผัสเนียน
- เทส่วนผสมลงบนฐานแครกเกอร์ จากนั้นนำเข้าตู้เย็นประมาณ 20-40 นาที จนเนื้อชีสพายเริ่มเซ็ตตัว
- นำชีสพายที่เซ็ตตัวแล้ว ออกจากตู้เย็นราด บลูเบอรี่ฟิลลิ่ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เคล็ดลับการทำชีสพายบลูเบอร์รี่
สำหรับชีสพายสิ่งสำคัญคือเนื้อสัมผัสบริเวณฐาน โดยในการบดแครกเกอร์ควรบดให้ละเอียดมากที่สุด เพราะหากบดแบบหยาบเวลากินฐานจะแตก รวมถึงขั้นตอนอัดแครกเกอร์ลงบนภาชนะ ควรอันให้แน่นเช่นเดียวกันเพราะอาจมีโอกาสแตกได้
3.ช็อคโกแลตโฮมเมด

ส่วนผสม
- ช็อคโกแลต ชนิดที่ชอบ เช่น ดาร์กช็อคโกแลต หรือมิลค์ช็อคโกแลต เป็นต้น
- อัลมอลด์
อุปกรณ์
- แป้นพิมพ์
- ถ้วยกระดาษ
- ถ้วย
วิธีทำ
- นำช็อคโกแลตและอัลมอลด์ไปละลาย โดยใส่ในถ้วย ใช้ความร้อนในการละลาย 400 วัตต์ ใช้เวลา 1.30 นาที
- หลังจากนำช็อคโกแลตและอัลมอลด์ที่ละลาย มาคนให้เข้ากันแล้วเทลงในแป้นพิมพ์
- ขณะที่ใส่ช็อคโกแลตที่ผสมลงในแป้นพิมพ์ ใส่ปริมาณแค่ครึ่งเดียวก่อน
- ใส่อัลมอลด์และช็อคโกแลตตามลงไปเพิ่มจนเต็มแป้นพิมพ์
- นำเข้าตู้เย็นประมาณ 20 นาที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เคล็ดลับการทำช็อคโกแลต
ในการทำช็อคโกแลตด้วยไมโครเวฟ สิ่งสำคัญคืออากาศ ขณะที่เทส่วนผสมลงแป้นพิมพ์ครั้งแรก (ช็อคโกแลตผสมกับอัลมอลด์) และก่อนเทครั้งสุดท้ายจนเต็มแป้น ควรระวังเรื่องอากาศที่แทรกตัวอยู่ ต้องค่อยๆเคาะไล่อากาศออกทั้งสองรอบ
4.French Toast

ส่วนผสม
- ขนมปัง 1-2 แผ่น
- เนยสด 100 กรัม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- นมสด 400 มิลลิลิตร
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงอบเชย 2 ช้อนชา
วิธีทำ
- หั่นขนมปังเป็นชิ้นเล็กๆ
- นำเนยสดใส่แก้วไปละลายในไมโครเวฟ เพียง 5-10 วินาที
- นำขนมปังที่หั่นเตรียมไว้ ใส่ลงไปในแก้ว
- ผสมไข่ไก่กับนมสด เข้ากับผงอบเชย จากนั้นเทลงในแก้วขนมปัง พักไว้ 10-20 นาที เพื่อให้ของเหลวซึมเข้าไปในขนมปัง
- นำเข้าไมโครเวฟ 1 นาที จากนั้นนำออกมาราดน้ำผึ้ง เพียงเท่านี้ก็ได้ French Toast แสนอร่อยแล้ว
เคล็ดลับการทำ French Toast
ในการทำ French Toast เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การปล่อยให้ส่วนผสมซึมเข้าเนื้อขนมปัง ไม่ควรรีบนำเข้าไมโครเวฟ ควรปล่อยให้ส่วนผสมชุ่มเยิ้มขนมปัง นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความอร่อยด้วยการทานคู่กับชาและกาแฟได้อีก
5.สตอเบอรี่ชีสเค้ก

ส่วนฐาน
- เนย 40 กรัม
- บิสกิต 60 กรัม
ครีมชีส
- นมข้นหวาน 30 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ครีมชีส 250 กรัม
- กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
วิปครีม
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- วิปปิ้งครีม 100 กรัม
- กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
แต่งหน้าเค้ก
- แยมสเตอเบอรี่
- สตอเบอรี่สด
วิธีทำ
- นำเนยเข้าไมโครเวฟเพื่อทำการละลาย
- บดบิสกิตและนำไปผสมกับเนยที่ละลายแล้ว คลุกให้เข้ากัน
- นำบิสกิตที่ผสมเสร็จแล้วนำไปใส่พิมพ์ถ้วยขนม โดยในการใส่ควรกดบิสกิตให้ติดแน่นกับพิมพ์
- นำครีมชีสใส่ถ้วยผสม จากนั้นตีให้ครีมชีสละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- ใส่นมข้นหวาน ไข่ไก่ และกลิ่นวนิลลาลงไปในถ้วยครีมชีสที่ตีเสร็จแล้ว จากนั้นคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
- ตักครีมชีสที่ผสมเสร็จแล้วใส่ในพิมพ์ แล้วนำเข้าไมโครเวฟ ด้วยความร้อน 500วัตต์ ใช้เวลา 2-3 นาที
- ผสมวิปปิ้งครีม น้ำตาลทราย และกลิ่นวนิลา ลงในถ้วยผสม โดยรองด้วยน้ำแข็ง จากนั้นตีส่วนผสมให้ขึ้นฟู แล้วตักวิปปิ้งครีมใส่ถุงบีบ
- นำเค้กที่ได้ออกจากไมโครเวฟ จากนั้นแต่งหน้าเค้กด้วยการทาแยมสตอรี่ ตามด้วยวิปปิ้งครีม และปิดท้ายสอตรี่เบอรี่ แค่นี้ก็เรียบร้อย
เคล็ดลับการทำสตอเบอรี่ชีสเค้ก
ในส่วนของฐานสตอเบอรี่ชีสเค้กเป็นสิ่งสำคัญ โดยหลังจากการบดและผสมบิสกิตเข้ากับเนยแล้ว ขั้นตอนการพิมพ์ฐานในถ้วยขนม ควรกดบิสกิตให้แน่นเพื่อให้ฐานสตอเบอรี่ชีสเค้กแข็งแรงและสามารถรองรับส่วนอื่นของชีสต์เค้กได้
6.คุกกี้นูเทลล่า

ส่วนผสม
- ไข่แดง 1 ฟอง
- นูเทลล่า 150 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 70 กรัม
- ดาร์กช็อคโกแลต
วิธีทำ
1.นำนูเทลล่าออกมาเพื่อพักในอุณหภูมิห้อง 20 นาที จากนั้นนำนูเทลล่าและไข่แดงมาผสมให้เข้ากัน
2.ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไปถ้วยผสม จากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากัน โดยให้แป้งมีลักษณะเหนียวสามารถปั้นเป็นก้อนได้
3.นำแป้งมาปั้น เป็นรูปคุกกี้ โดยสอดไส้ด้วยดาร์กช็อคโกแลตไว้ตรงกลาง
4.นำแป้งคุ้กกี้ที่ได้ เข้าไมโครเวฟ 600 วัตต์ ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที เพียง 4 ขั้นตอนง่ายๆก็ได้คุกกี้แสนอร่อยแล้ว
เคล็ดลับการทำคุกกี้นูเทลล่า
ในการใช้นูเทลล่าก่อนผสมกับไข่แดง ควรให้เนื้อสัมผัสของนูเทลล่าละลายในอุณภูมิห้องก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการคนผสมกับไข่แดง นอกจากนี้ในการวางแป้งคุกกี้ก่อนเข้าไมโครเวฟ ควรวางเว้นระยะห่างกันเพื่อป้องกันคุกกี้ติดกัน
7.เค้กช็อคโกแลค

ส่วนผสม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
- เนยสด 1/2 ถ้วยตวง
- นมสด 1/3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ผงโกโก้ 5 ช้อนโต๊ะ
- เบคกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
- ผงฟู 1/4 ช้อนชา
- เบคกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
- วานิลลา 1/2 ช้อนชา
- วิปปิ้งครีม 50 กรัม
- ช็อคโกแลค 100 กรัม
วิธีทำ
- นำน้ำตาลผสมกับผงโกโก้ และเนยสด จากนั้นเอาเข้าไมโครเวฟ 800 วัตต์ เป็นเวลา 2 นาที
- หลังจากนั้นนำออกมาคนส่วนผสมให้เข้ากัน วางทิ้งไว้ให้พออุ่นๆ
- ใส่วานิลลา นมสดและไข่ คนให้เข้ากัน
- ใส่แป้ง ผงฟู และเบคกิ้งโซดา คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- ตักใส่แป้นพิมพ์ ใส่แค่ 1 ใน 3 ของพิมพ์ เพราะเนื้อเค้กจะฟูขึ้นเป็น 3 เท่าตัว
- นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟแรง 600 วัตต์ เป็นเวลา 1.30 นาที เพียงเท่านี้เป็นอันเสร็จส่วนของเนื้อเค้ก
- ทำหน้าเค้กโดย นำชอคโกแลตกับวิปปิ้งครีมผสมกัน จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟแรง 800 วัตต์ เป็นเวลา 1.30 นาที
- นำหน้าเค้กตกแต่งเนื้อเค้ก ถือเป็นอันเสร็จสิ้น
เคล็ดลับการทำเค้กช็อคโกแลค
สำหรับการทำเค้กช็อคโกแลค สิ่งสำคัญคือการกะปริมาณเมื่อใส่ส่วนผสมลงไปในแป้นพิมพ์ หากใส่มากเกินไปจะทำให้เนื้อเค้กล้นจากแป้นพิมพ์ นอกจากนี้ขณะทำหน้าเค้กควรเตรียมจานไว้รองถ้วย เพราะความร้อนจากไมโครเวฟจะทำให้ช็อคโกแลตเดือดจนเปรอะไมโครเวฟได้
8.เครมบลูเล่ (creme brulee)

ส่วนผสม
- ไข่ไก่แดง 3 ฟอง
- น้ำตาลไอซิ่ง 1/3 ถ้วย
- วิปปิ้งครีม 150 มิลลิลิตร
- เกลือเล็กน้อย
- กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
วิธีทำ
- นำไข่แดงน้ำตาลไอซิ่ง, กลิ่นวนิลา ใส่ในถ้วยใบใหญ่ที่เตรียมไว้ ตีให้เข้ากันจนไข่มีลักษณะเป็นเนื้อครีม
- จากนั้นนำวิปปิ้งครีมไปอุ่นในไมโครเวฟ 20 นาที
- นำวิปปิ้งครีมที่อุ่นเสร็จแล้ว ผสมเข้ากับส่วนผสมที่เตรียมไว้น้ำตาลไอซิ่ง, กลิ่นวานิลา ใส่ในถ้วยใบใหญ่ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรก
- เทส่วนผสมทั้งหมดลงไปในแป้นพิมพ์
- วางแป้นพิมพ์ลงบนถาดที่มีน้ำ จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟ 3 นาที ด้วยไฟแรง 900 วัตต์
- นำเครมบลูเล่ออกมาพักในอุณหภูมิห้อง ตรวจสอบว่าหน้าขนมเด้งรึเปล่า จากนั้นนำเข้าไปในตู้เย็น 2 ชั่วโมง
- เมื่อเครมบลูเล่เย็นแล้ว โรยน้ำตาลทรายหน้าเครมบลูเล่ ใช้ไฟเผาน้ำตาลทรายให้เกรียม เป็นอันเสร็จสิ้น
เคล็ดลับการทำเครมบลูเล่
ในการทำเครมบลูเล่ถ้าหากไม่มีไฟที่เผาน้ำตาลทรายให้เกรียม สามารถน้ำตาลทรายผสมกับน้ำเปล่าไปเคี้ยวในหม้อด้วยไฟอ่อนๆ จนกลายเป็นคาราเมลมาราดหน้าเครมบลูเล่ได้ เพียงเท่านี้ก็ได้เครมบลูเล่หน้าคาราเมลแล้ว ทั้งนี้ข้อควรระวังของการทำเครมบลูเล่คือ น้ำในถาด ควรใส่ให้มีปริมาณมากพอ เพราะน้ำจะช่วยให้เนื้อเครมบลูเล่ชฉุ่มช้ำ และไม่แห้งจนเกินไป
อ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่
2 thoughts on “8 เมนูขนม ทำจากไมโครเวฟได้ไม่ต้องง้อเตาอบ”