ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข แถลงเกี่ยวกับการติดเชื้อของผู้ต้องขัง โดยสรุปเป็นไทม์ไลน์ได้ดังนี้
– ผู้ป่วยรายนี้ เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างกักกัน ในทัณฑสถานพิเศษกลาง ก่อนจะมีการย้ายไปแดนต่างๆ หลังจากครบ 14 วัน ซึ่งอาการไม่ชัด มีเสมหะ
– เจ้าหน้าที่ตรวจพบป่วยโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2563 หลังจากได้รับรายงาน มีการตรวจสอบยืนยันในห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ผลเป็นบวก

– จากการสอบสวน ย้อนกลับไป 14 วัน พบประวัติอาศัยอยู่กับครอบครัวที่คอนโด บ้านสวนธน พุทธบูชา บางมด กับครอบครัว 5 คน ซึ่งเข้าข่ายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 คน ซึ่งได้เก็บตัวอย่างไปตรวจโรค พร้อมทำการแยกกักตัวต่อไป
– นอกจากนี้ยังพบว่า มีผู้ที่สัมผัสเสี่ยงอีก 2 คน ซึ่งเป็นญาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินไปต่างจังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดในเขตปริมณฑล คาดว่าพรุ่งนี้จะสามารถติดต่อได้
– ทั้งนี้ ผู้ป่วยทำอาชีพเป็นดีเจอยู่ที่ร้าน “3 วัน 2 คืน” ในสาขาพระราม 3 และพระราม 5 ซึ่งตามอาชีพอาจจะไม่ได้สัมผัสกับผู้อื่น และถ้าคนในร้านสวมแมสก์ หรือไม่ได้สัมผัสกับผู้ป่วย ก็จะไม่ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง นอกจากนี้ผู้ต้องขังรายดังกล่าวยังทำงานอยู่ที่คาเฟ่ย่านถนนข้าวสารอีกแห่งหนึ่ง
– วันที่ผู้ต้องขังเดินทางไปขึ้นศาล มีทนายความ เจ้าหน้าที่เรือนจำ นักโทษร่วมตัดสินคดี นักโทษที่อยู่บนรถ อีก 20 คน ซึ่งจะได้แยกกักตัวต่อไป
– มีการแยกกักผู้ต้องขังแรกรับอีก 34 คน ที่อยู่ในห้องเดียวกับผู้ต้องขัง และอาสาสมัคร ซึ่งจากการตรวจเชื้อในวันเดียวกันกับผู้ต้องขังที่ป่วยโควิด-19 ยังไม่พบติดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รับว่า เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ หลังผ่าน 100 วัน ทั้งนี้ ฝากให้ทุกคนตระหนัก และจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังในการควบคุมโรค เว้นระยะห่าง และลดความแออัด ซึ่งจากเคสนี้ถือว่าเป็นการพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ แต่ในเรื่องการระบาดระลอก 2 ยังต้องตรวจหาผู้ติดเชื้อเพิ่ม ซึ่งหากควบคุมได้ก็จะไม่เกิดการระบาดในระลอก 2
อีกทั้งผลการตรวจดังกล่าว ยังไม่สามารถยืนยันว่า ผลตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อ COVID-19 ของผู้ต้องขังคนนี้ เป็นผลบวกต่อเชื้อที่มีชีวิตหรือผลบวกต่อเศษซากเชื้อที่ตายแล้ว หากผลการตรวจเป็นประการใด กรมราชทัณฑ์จะได้รายงานและแจ้งให้ประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่ง
อ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่